พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ

[Chanapot]

พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
         ในอดีตกาลเมื่อมนุษย์ยังไม่ทราบ การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ การที่ดูวันที่เป็นนั้นมาจากรู้จักการดูดวงดาวเพื่อดูวันเดือนปี
ให้ง่ายมากขึ้น และก็เริ่มมีการสร้างเครื่องจับเวลา สร้างการจดบันทึกหรือวางแบบการดูดาวต่างๆเพื่อทำแบ่งฤดู
แบ่งวันเดือนปีต่างๆการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ ทำให้สามารถกำหนดออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างเห็นได้ชัด ดำรงชีพทุกวันได้
ง่ายมากยิ่งกว่าเดิม ช่วยทำให้มีการจำเรื่องราวและใช้สำหรับเพื่อการเตือนความจำต่างๆก้าวหน้าอีกด้วย
พวกเราจึงดูได้ว่าสำหรับในการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะหรือรูปแบบของปฏิทินห้อยไทย มักจะมีการบอกดูแลถึงข้างขึ้น
ข้างแรมเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการดูดวงจันทร์ที่เราจำต้องใช้การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะไม่ได้บอกแค่การรับรู้วันเดือนปีได้เพียงแค่นั้น
แม้กระนั้นการเขียนจำวันทั้งปีก็ไม่ใช่ง่าย การออกแบบพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะรวมทั้งนับวันให้ตรงกันทั่วทั้งโลก ก็เลยเป็นกรรมวิธีที่มนุษย์ใช้ร่วม
กัน อย่างไรก็แล้วแต่ลักษณะของการนับวันที่ร่วมกันอย่างเป็นสากลสามารถช่วยเหลือกันกำหนดเพื่อกระทำนัดหมายหรือทำการ
บอกวันในช่วงเวลาที่สำคัญได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น การกำหนดปฏิทินอย่างเป็นสากลจึงมีความเกี่ยวพันต่อยุคสมัยปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง
การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
ก่อนจะเป็นการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ การกำเนิดปฏิทินคราวแรกของโลกมาจากชาวบาบิโลเนียน ซึ่งมีการย้อนกลับมา
กลับไปในช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมาจากภาษาโรมันของชาวกรีกโบราณกาล ในยุคของชาวกรีกโบราณนั้นยังไม่
มีการใช้การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ แต่ว่าคนรุ่นก่อนมีการทำปฏิทินบอกวันเวลาขึ้นมา เมื่อครบกำหนดเวลาจะมีคนที่กระทำการร้องบอกวัน
เวลาขึ้น การบอกเวลาในอดีตมีความจำเป็นมากมายเพื่อเป็นการบอกการขึ้นวันเดือนใหม่เพื่อทราบถึงลูกหนี้ที่ยังมีการ
ติดของเจ้าหนี้อยู่ ภาษาอังกฤษคือ "I Cry" ภาษาไทยแปลว่า "การตะโกนบอก" ภาษาโรมันของชาวกรีกสมัยโบราณ
เรียกว่า Kalend ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า Calendar ในภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็ตามการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะมีประวัติความเก่าแก่สืบย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของปฏิทินโลก ช่วงเวลาของ
การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะนั้นยาวนานมีความเก่าแก่มานานมากกว่าพันปี โดยระบบการนับวันที่ตามชาวบาบิโลเนียนที่มีการ
กำหนดวันเดือนปีขึ้นมาดูจากระยะต่างๆของดวงจันทร์เกี่ยวกับการสังเกตข้างขึ้นข้างแรม ปัจจุบันเราสามารถ
แปลความนั้นได้ว่าเป็นรูปแบบของจำพวกปฏิทินจันทรคติ โดยเมื่อครบการกำหนดข้างขึ้นเราแรมครบ 12 รอบจะเป็น
การครบฤดูให้เวียนกลับมา
ปฏิทินของเมืองไทยได้ถูกตีพิมพ์ขึ้นคราวแรก 14 มกราคม พุทธศักราช 2385 ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 เพราะฉะนั้น ทุกวันที่ 14
เดือนมกราคมทุกปี มีการกำหนดให้เป็นวันที่มีความสำคัญเนื่องจากใช้ปฏิทินตีพิมพ์ขึ้นมาครั้งแรก เมืองไทยในสมัยอดีตมี
การใช้ปฏิทินจันทรคติตั้งแต่ยุคจังหวัดสุโขทัยมีการนับเป็นปีตามมหาศักราชแล้วก็จ.ศ. ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 3
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีการกรุณาจากรูปแบบปฏิทินเดิมให้แปลงเป็นปฏิทินสุริยคติ มีต้นแบบ
การใช้มีความนำสมัยลักษณะสากลตามปฏิทินเกรกอเรียน ในที่สุดจึงมีการจัดทำการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะขึ้นเพื่อใช้งานนั้นเอง