วิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ทิ้งงาน แล้วก็ข้อเสนอแนะสำหรับในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

[Jessicas]

1. ตรวจประวัติและก็มองผลงาน
จุดเริ่มแรกที่สำคัญที่สุดของการตามหาบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีนั้นคือ การค้นหาแล้วก็คัดเลือกผู้รับเหมาสร้างบ้านที่มีมาตรฐานแล้วก็ดูน่าไว้วางใจ ด้วยการตรวจประวัติรวมทั้งดูผลงานการก่อสร้างก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณจะทดลองค้นหาชื่อบริษัทจากในอินเทอร์เน็ต หรือทดลองซักถามประสบการณ์จากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงที่เคยใช้บริการ คุณก็จะได้ข้อมูลโดยประมาณก่อนจะเริ่มพูดคุยรายละเอียดกับผู้รับเหมาที่น่าดึงดูดแล้วก็รู้สึกจะเข้าท่าจริงๆกับบ้านในฝันของคุณ



2. ขอใบเสนอราคาก่อสร้าง
ภายหลังหาผู้รับเหมาที่พอใจได้สัก 2-3 รายแล้ว คุณจำต้องแจ้งรายละเอียดการก่อสร้างรวมทั้งขอใบเสนอราคาจากผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อทราบมูลค่าการก่อสร้างทั้งปวงที่คุณจะต้องจ่าย ซึ่งอาจรวมถึงเนื้อหาแล้วก็มาตรฐานของสิ่งของที่ใช้ แล้วนำใบเสนอราคาทั้งผองมาเปรียบก่อนที่จะตัดสินใจ ซึ่งการเสนอราคาก็สามารถสะท้อนให้มองเห็นถึงมาตรฐานการทำงานของผู้รับเหมาได้ และก็คุณก็จะได้เลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีในราคาที่สมควรจากขั้นตอนนี้เอง



3. ควรจะมีสัญญาจ้างที่แจ่มชัด
เมื่อถูกใจกับราคาที่ผู้รับเหมาสร้างบ้านเสนอมาแล้ว ก็ได้เวลาของการทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ห้ามตกลงงานกันปากเปล่าเด็ดขาด โดยบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพจะเป็นผู้เสนอสัญญาจ้างให้ท่านเองเลยโดยไม่ต้องวิงวอน ซึ่งในสัญญาควรมีการเจาะจงถึงกรอบระยะเวลาการก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ การแบ่งชำระเป็นงวดตามความคืบหน้าของงาน มีเงื่อนไขการรับรองการก่อสร้าง และถ้ามีพาร์ตเนอร์ที่รับช่วงต่อในงานที่ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ถนัด ก็จำเป็นต้องระบุในข้อตกลงด้วย



4. มีมาตรฐานสำหรับในการดำเนินงาน
แม้คุณจะอุตสาหะหาผู้รับเหมาทำการก่อสร้างให้ดีอย่างไร ท้ายที่สุดมาตรฐานที่จริงจริงก็จะเห็นได้เมื่อเริ่มงาน โดยผู้รับเหมาที่มีมาตรฐานนั้นต้องวางแผนงานให้คุณทราบอย่างมีระบบ หากเป็นงานใหญ่จำต้องส่งวิศวกรหรือนักออกแบบของผู้รับเหมาก่อสร้างมาให้การดูแลถึงหน้างาน รวมทั้งที่จำเป็นมากเป็นเอกสารค่าครองชีพอุปกรณ์ (Bill of Quantities หรือ BOQ) ที่บ่งบอกถึงถึงการใช้วัสดุและรายจ่ายระหว่างก่อสร้าง ซึ่งถ้าเกิดผู้รับเหมาก่อสร้างตกมาตรฐานไหนไป คุณต้องเรียกทันทีอย่าได้ช้า



5. มีผู้เชี่ยวชาญตรวจทานงาน
การตรวจทานงานไม่ใช่แค่ผู้รับเงินมาเดินตามติดคุณแล้วชี้ให้ดูโน่นนี่โน่นแล้วต่อจากนั้นก็จบ แต่คุณควรจะมีคนเขียนแบบหรือวิศวกรก่อสร้างที่มีความชำนิชำนาญมาร่วมตรวจ ซึ่งควรหาคนกลางมาเอง แต่ว่าถ้าเกิดหาไม่ได้ก็ต้องมีวิศวกรฝั่งผู้รับเหมาก่อสร้างมาร่วมตรวจตราด้วย โดยบริษัทรับสร้างบ้านควรจะมีรายการตรวจรับงานอย่างแจ่มแจ้ง ถ้าเกิดมีอะไรที่ผิดจากที่เคยตกลงกันไว้จะต้องพร้อมปรับแก้ และเมื่อพิจารณาจนกระทั่งแน่ใจว่าบ้านของคุณเพอร์เฟ็คแล้ว แล้วก็ค่อยจ่ายเงินงวดท้ายที่สุดเพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสิ้นการส่งมอบงาน



การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับในการดำเนินโครงการก่อสร้างบ้านที่ปลอดภัย แล้วก็มีคุณภาพสูง
ด้วยเหตุนั้น นี่เป็น 10 ข้อแนะนำที่สามารถช่วยในกรรมวิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสม



1. เรียน แล้วก็ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัท: ศึกษาเนื้อหาสาระเกี่ยวกับบริษัทรับสร้างบ้านที่คุณสนใจ ซึ่งรวมถึงประวัติความเป็นมาของบริษัท รวมทั้งผลงานที่เคยทำมาก่อนหน้า
ยิ่งไปกว่านี้คุณยังสามารถอ่านรีวิวจากลูกค้าที่ผ่านมาเพื่อมั่นใจว่าบริษัทมีความน่าไว้ใจ รวมทั้งมีความรู้สำหรับในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ



2. ตรวจทานความถูกต้องทางด้านกฎหมาย: ตรวจทานว่าบริษัทมีเอกสารสิทธิ์ และก็การเขียนทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อมั่นใจว่าคุณได้ทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูก รวมทั้งเป็นธรรม



3. มอง และก็เทียบราคา: ขอใบเสนอราคาจากบริษัทที่คุณพิเคราะห์ แต่อย่าให้ราคาเป็นเพียงส่วนประกอบเดียวในการตัดสินใจ เปรียบเทียบราคาพร้อมทั้งประสิทธิภาพ แล้วก็บริการที่จะได้รับ

4. ตรวจตราเรื่องราวดำเนินงาน: ดูผลงานที่เคยทำของบริษัทรับสร้างบ้านในสมัยก่อน ดูภาพถ่าย หรือเยี่ยมชมสถานที่โดยตรง เพื่อให้คุณได้ไตร่ตรองประสิทธิภาพของงานจากบริษัทที่มีประสบการณ์สำหรับการปฏิบัติการ



5. ถามไถ่ และก็เสริมสร้างความเชื่อมั่น: สื่อสารกับบริษัทเพื่อซักถามรายละเอียดอื่นๆ ควรถามเรื่องระยะเวลาสำหรับในการดำเนินแผนการ การสื่อสาร และการแก้ปัญหา คุณควรรู้ว่าบริษัทนั้นพร้อมจะให้การสนับสนุน และคำปรึกษาที่ดีตลอดกรรมวิธีการก่อสร้าง

6. ความชำนาญในด้านที่คุณสนใจ: ตรวจดูความเชี่ยวชาญของบริษัทรับสร้างบ้านในด้านที่คุณอยากได้ อาจเป็นการก่อสร้างบ้านรากฐานในนานัปการขนาดบ้าน เลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ รวมทั้งประสบการณ์ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่อยากได้



7. ประสิทธิภาพสิ่งของ แล้วก็เทคโนโลยี: ถามไถ่ว่าบริษัทใช้อุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานหรือไม่ การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงจะช่วยทำให้ได้รับสินค้าที่ทนทาน แล้วก็แข็งแรงต่อการใช้งานในระยะยาว

8. ระยะเวลา และก็การส่ง: สอบถามเกี่ยวกับระยะเวลาที่บริษัทรับสร้างบ้านสามารถก่อสร้างบ้านให้เสร็จสิ้น และก็การส่งงานภายในช่วงเวลาที่กำหนด



9. การรับรองประสิทธิภาพ: ถามเกี่ยวกับการรับรองประสิทธิภาพของงาน ว่าบริษัทมีการรับประกันคุณภาพงานก่อสร้างบ้านหลังการมอบหรือเปล่า และก็ระยะเวลาการรับประกันเป็นเท่าไร

10. การตรวจทานเอกสาร และคำสัญญา: ตรวจดูรายละเอียดในสัญญารับเหมาก่อสร้างที่ต้องทำกับบริษัทรับสร้างบ้าน แล้วก็อ่านเอกสารให้เข้าใจให้ดีก่อนที่จะเซ็นชื่อในข้อตกลง ถ้ามีเรื่องที่น่าสงสัยหรือเปล่าเข้าใจ ควรไต่ถาม รวมทั้งเสวนากับบริษัทรับสร้างบ้านให้เข้าใจถูกตรงกันทั้งสองฝ่าย



สรุป การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนการที่จำเป็นต้องใช้เวลา แล้วก็ความละเอียดถี่ถ้วน เหตุเพราะการสร้างบ้านเป็นโครงการที่ใช้เวลานาน และก็มีความหมาย
ด้วยเหตุผลดังกล่าวคุณควรจะทำการวิจัย และก็การพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถเลือกบริษัทที่สมควร และก็มีคุณภาพที่สุดสำหรับในการสร้างบ้านของคุณเอง
โดยควรใช้เวลาสำหรับเพื่อการพินิจพิจารณา รวมทั้งประเมินตัวเลือกที่มีอยู่ พร้อมทำการเทียบสิ่งที่คุณต้องการให้ครบสมบูรณ์มากที่สุด และก็เลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่เข้ากันได้กับความจำเป็น รวมทั้งความคาดหมายของคุณ
อย่าลืมตรวจดูสัญญาที่กำหนดข้อตกลง แล้วก็รายละเอียดต่างๆเพื่อแน่ใจว่าคุณเข้าใจ และสารภาพข้อตกลงทั้งผองก่อนที่จะลงชื่อ
การมีข้อตกลงที่แจ่มแจ้ง เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่น รวมทั้งคุ้มครองปกป้องปัญหาในอนาคต